นับแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา บริษัทชั้นนำต่างก็ปรับเปลี่ยนระบบการทำงาน ให้เป็นแบบ Hybrid  ให้อิสระกับพนักงานมากขึ้น และให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ของงานมากกว่าการตอกบัตรลงเวลา หลายบริษัทให้พนักงานเข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 2-3 วัน ส่วนที่เหลือจะ Work from Home หรือ work Anywhere ก็แล้วแต่ความสะดวกแต่ต้องสามารถติดต่อได้ เข้าร่วมประชุมได้ และปฏิบัติงานได้ตลอดเวลา

.

ไอเดียดังกล่าวช่วยโดนใจคนรุ่นใหม่อย่างมาก…80% ของคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบการทำงานแบบ Hybrid Working นี้ แต่ก็มีคำถามตามมาว่า จะรักษาประสิทธิภาพการทำงานไว้ได้อย่างไร เพราะส่วนใหญ่แล้วจะอิสระกับบรรยากาศจนสูญเสียประสิทธิภาพในการทำงานไป passion gen จึงนำไอเดียดีๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานจากที่บ้าน หรือร้านกาแฟมาฝาก

.

1.กำหนดพื้นที่เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงาน อาจจะจัดให้โซนหนึ่งของบ้าน เป็นโต๊ะทำงานและห้องทำงาน ซึ่งควรจะมีความเป็นส่วนตัว และเงียบสงบปราศจากเสียงรบกวน เพื่อให้เราสามารถตั้งสมาธิให้อยู่กับงานตรงหน้าได้

.

2.กำหนดกิจวัตรของการทำงาน โดยระบุเวลาทำงานและเวลาพักที่แน่นอน อาจจะเหมือนกันการทำงานในออฟฟิศ หรือกำหนดตารางขึ้นมาเองได้ แต่ต้องเคร่งครัดกับตารางงานนั้น การเคร่งครัดกับการรักษากิจวัตรในการทำงานนี้ จะทำให้เราอยู่ในระบบระเบียบมากขึ้น ไม่หลงไปกับสิ่งยั่วยวน เช่น ใจจริงก็อยากดูซีรี่ย์เกาหลีเรื่องใหม่มากๆ แต่ทำไมได้ เพราะยังอยู่ในเวลาทำงาน

.

3.สร้างบรรยากาศด้วยการแต่งกา การทำงานด้วยชุดนอนไม่ใช่สิ่งที่ผิด โดยเฉพาะเมื่อคุณไม่ต้องประชุมกับเจ้านายหรือทีมงาน แต่มันไม่เหมาะอย่างมากที่จะส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน  การสร้างบรรยากาศรอบๆ ตัวด้วย การตกแต่งห้องทำงาน การแต่งกายให้เหมือนอยู่ในออฟฟิศจะช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงานให้ดูซีเรียสขึ้น ซึ่งแน่นอนสิ่งนั้นมีผลดีกับประสิทธิภาพการทำงาน

4.กำหนดเป้าหมายในแต่ละวัน ถ้าคุณยังทำงานไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย นั่นจะเป็นผลร้ายอย่างมากต่อความสำเร็จ เช่นเดียวกัน ถ้าคุณต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่ดี คุณต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละวัน เป้าหมายที่ชัดเจนว่าวันนี้จะต้องทำอะไรให้เสร็จบ้าง อะไรสำคัญสุด อะไรมาก่อนมาหลัง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการทำงานได้ดี และทำงานอย่างมีจุดหมาย มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเหล่านั้นให้สำเร็จ

.

5.ใช้แอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการเพิ่มประสิทธิภาพ คือ คุณต้องมีวินัยกับตัวเองอย่างมาก แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ แอปพลิเคชันที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน การทำงานนอกออฟฟิศนั้น คุณต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ แอปที่ช่วยในการวางแผน ช่วยในการคิด ช่วยในการบริหารโครงการ แอปในการติดต่อสื่อสารกับทีมงาน เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญจำเป็นที่ขาดไม่ได้

.

6.พักบ้าง ส่วนใหญของการทำงานจากที่บ้าน คือประสิทธิภาพในการทำงานน้อยเกินไป แต่ก็มีบางกลุ่มที่ขลุกอยู่กับการประชุมทั้งวันจนออกจะมากเกินไป ดังนั้นจึงควรกำหนดเวลาพักเป็นระยะ ออกเดินยืดเส้นยืดสาย จิบชากาแฟบ้างเพื่อให้จิตใจและสมองได้ผ่อนคลายความตึงเครียดลงบ้าง

.

7.ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานเสมอ การติดต่อพูดคุยช่วยให้เราอยู่ในบรรยากาศการทำงาน รวมถึงกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นอย่างต่อเนื่อง การประชุมผ่าน zoom และอัพเดทผ่าน Line อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8.จัดการเวลาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แบ่งสรรเวลาทำงานและเวลาพักสั้นๆ อย่างเหมาะสม อาจจะทำเทคนิค Pomodoro มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (ทำงาน 30 นาที พัก 3-5 นาที สลับกัน) ช่วงเวลาหยุดพักอาจจะช่วยให้ได้ทบทวน คิด และวางแผน ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

.

9.สร้าง Motivation เพราะการทำงานจากที่บ้านต้องมีระเบียบวินัยสูง และบ่อยครั้งก็มีสิ่งยั่งใจอยู่มากมาย การสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองเป็นระยะ จะช่วยให้เราสนุกกับการทำงาน มีแรงบันดาลใจที่จะจัดการงานตรงหน้าให้สำเร็จ

.

การทำงานจากที่บ้าน หรือทำงานจากทุกที่นั้น สิ่งสำคัญก็คือการมีวินัยกับตัวเอง การสร้างทัศนคติเชิงบวก และการใช้อุบายเพื่อสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อม มีงานวิจัยมากมายที่ระบุว่า การทำงานแบบ Hybrid Working ช่วยให้การทำงานโดยรวมมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานในออฟฟิศแบบเดิม องค์กรส่วนใหญ่จึงมุ่งมาด้านนี้ แต่หาก เราไม่สามารถจัดการกับวินัยในตัวเองได้ โอกาสนี้อาจจะส่งผลเสียกับหน้าที่การงานของน้องๆ ให้อนาคตได้

Passion in this story