โลกภาพยนตร์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อุตสาหกรรมนี้ต้อชะงักงันไปกว่า 2 ปี ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้น อุตสาหกรรมภาพยนตร์ขับเคลื่อนอีกครั้ง… แต่ในช่วงระหว่าง 2 ปีนี้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังไม่ได้ชะงักงันไปเสียทีเดียว ภาพยนตร์เรื่องใหม่ๆ ที่มีคุณค่าแฝงแง่คิด วัฒนธรรม และสะท้อนสังคมก็ยังคงมีอยู่เสมอ และเมื่อทุกอย่างพร้อม งาน World Film Festival of Bangkok หนึ่งในงานเทศกาลภาพยนตร์ชั้นนำ ก็กลับมาผงาดอีกครั้ง พร้อมด้วยภาพยนตร์ชั้นนำที่คัดสรรมาแล้วจากทั่วโลก

 

2 ปีที่ห่างหายไปจะเป็นอย่างไร โควิดทำให้มุมมองภาพยนตร์เปลี่ยนไปอย่างไร ผู้สร้างและผู้กำกับเปลี่ยนไปอย่างไรมีมุมมองที่เปลี่ยนไปหรือไม่ และการกลับมาครั้งนี้ มาพร้อมกับความครบเครื่องทรงเครื่องอย่างไร ตามไปพูดคุยกับ ดรสะรณ โกวิทวณิชชา ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ คนล่าสุด…

โควิดที่ผ่านมาเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรกับวงการภาพยนตร์บ้าง

มันมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ที่เราเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาในประเทศไทยก็ดี ในหลายประเทศก็ดี โรงภาพยนต์ต้องปิดเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่แน่ใจว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือเปล่าในโลกนี้ สิ่งนี้กระทบทุกภาคส่วน แต่ปัจจุบันทุกอย่างก็ค่อยๆฟื้นกลับมาแล้ว

.

มุมมองความของผู้ชม ผู้สร้าง ผู้กำกับ เปลี่ยนไปอย่างไร

โควิดทำให้มีข้อจำกัดมากขึ้นในการทำงาน การถ่ายทำต่างๆ อย่างที่เห็นว่า เราต้องใส่หน้ากากอนามัย ต้องตรวจ ATK อะไรหลายอย่าง การทำงานภาพยนตร์มีขั้นตอนยุ่งยากมากขึ้น มีการเว้นระยะห่าง อย่างช่วงที่โควิดระบาดหนักๆ เป็นช่วงที่ลำบากมากในการทำงาน กระทบกับุทกคน กระทบกับกับความรู้สึกนึกคิดของคน ส่วนในมุมมองของผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้กำกับภาพยนตร์ เราเชื่อว่าเขาก็ยังคงเป็นแบบเดิม มีความแหลมคมเฉียบคมอยู่แล้ว ถ้าถามว่าหลังโควิดแล้วมีภาพยนตร์เกี่ยวกับโควิดออกมาเยอะขึ้นไหม จริงๆก็ไม่นะครับ ก็ทำในประเด็นต่างๆ อาจจะมีเรื่องเกี่ยวกับโควิดบ้าง บางเรื่องก็อาจจะไม่เกี่ยว มันเหมือนทุกอย่างก็ดำเนินไป

.

งาน World Film Festival of Bangkok ครั้งที่ 15 โดดเด่น แตกต่างอย่างไร

งาน World Filmฯ หายไปหลายปี ครั้งนี้ก็ถือว่ามารับช่วงต่อจากพี่วิคเตอร์ ที่เสียชีวิตกระทันหันเอช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ทีมงานก็ยังมีความตั้งใจทำงาน กลับมาครั้งนี้ต้องทำให้มันพิเศษ ครั้งนี้จึงจะมีการประกวด International competition เรามีรางวัล เกรียงศักดิ์ ศิลากอง ซึ่งเป็นรางวัลที่จะมอบให้กับผู้ที่มีคุณูปการกับวงการภาพยนตร์  แล้วก็จะมีกิจกรรมต่างๆ  ระหว่างเทศกาลอีกมากมาย

.

โดยเป้าหมายของงานในครั้งนี้ เราไม่ได้อยากให้เป็นแค่การฉายภาพยนตร์เฉยๆ แล้วก็จบกันไป กลับบ้านก็เอาหนังมาเรียงในคอลเล็คชัน เราเองมีความมุ่งหมายให้อยากให้เกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยนกัน ดูภาพยนตร์แล้วชอบหรือไม่อย่างไม่อย่างไรก่อให้เกิดการพูดคุย ให้เกิดมุมมองที่แตกต่าง ให้ได้รู้ว่าในโลกนี้มีภาพยนตร์ที่หลากหลาย ไม่ใช่มีแค่ภาพยนตร์อย่างที่เราเห็นฉายกันอยู่ประจำ ยังมีภาพยนตร์แบบอื่น ที่สะท้อนมุมมองของสังคม วัฒนธรรม ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคม

.

เราคิดว่างานในครั้งนี้เป็นเหมือนฟันเฟืองหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ที่ทำให้ผู้ชมได้เห็นมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย นั่นคือเป้าหมายของการกลับมาในครั้งนี้

.

 

ทิศทางการพัฒนา World Film Festival of Bangkok ในอนาคต

ก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ปีนี้เรามีการเสวนาด้วย  ต่อไปเราอาจจะมี อาทิเช่น workshop เราอาจจะ มีกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มมากขึ้นไปอีก ในอนาคต มีความตั้งใจให้เป็นแผนระยะยาว จะมีการพัฒนากิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  มีการทำงานต่างๆที่อาจะสนับสนุนโปรเจคภาพยนตร์อะไรต่างๆ เหล่านี้ มีโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อส่งเสริมคนทำภาพยนตร์ไทยด้วย

ตัวอย่างภาพยนตร์ที่น่าสนใจ ที่คัดเลือกมาในปีนี้

มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ฉายมีความน่าสนใจอยู่แล้ว เป็นหนังที่ควรจะต้องดูของปีนี้ ห้ามพลาด ยกตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง Return to Seoul ที่เป็นตัวแทนชิงรางวัลออสการ์ของประเทศกัมพูชา อันนี้ก็น่าสนใจเป็นหนังฝรั่งเศส ถ่ายทำในประเทศเกาหลีเนื้อเรื่องก็มีความน่าสนใจมาก

ภาพยนตร์เรื่อง EO ออกเสียงว่า อิโอ เป็นภาพยนตร์ตัวแทนชิงรางวัลออสการ์ของประเทศโปแลนด์ เป็นภาพยนตร์ที่ดารานำเป็น “ลา” จริงๆเรามีอีกหลายเรื่องเลยที่ถ้าพูดจะยาวมาก

.

พูดถึงแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ เชิญชวนคนรุ่นใหม่

อย่างที่บอกว่า เป้าหมายของเทศกาลภาพยนตร์ เราต้องการให้คนได้เห็นว่า มันยังมีความหลากหลาย มีความแตกต่าง…ในโลกใบนี้มีชุดความคิดที่แตกต่างกันออกไปมากมาย แต่ละชาติแต่ละภาษาก็มีขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม มีวิธีคิด มีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ มันมีอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้น มีความเป็นไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนอยู่ในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม อันนี้เป็นสิ่งที่เราเชื่อว่าคนที่ได้ดู จะได้รับรู้ว่า โลกไม่ได้มีอยู๋เพียงเท่านี้…มันไม่ใช่ โลกนี้ยังมีอะไรที่มากกว่านั้น เราเชื่อว่า อย่างน้อยคนที่มาดูไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่  จะได้เห็นว่า  มันมี ความหลากหลายที่อยู่ในโลกใบนี้

Passion in this story